บุญมีแล็บ (Boonmee Lab) ได้รับโอกาสออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เมื่อปี 2023 จึงเป็นโจทย์ระดมสมองทีมดีไซน์ออกมาเป็น Proposal เพื่อนำไปเสนอว่าเราจะปรับปรุงและออกแบบเว็บไซต์ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครใหม่อย่างไร

ในบทความนี้เราจะเล่าถึงที่มาของการตัดสินใจต่าง ๆ ก่อนที่จะออกแบบมาเป็นเว็บท่องเที่ยวเมืองเว็บหนึ่ง

ก่อนจะออกแบบเว็บไซต์ท่องเที่ยวเมือง ลองถามตัวเองคุณหาข้อมูลจากไหน เวลาคุณจะไปเที่ยวเมืองหนึ่งหรือจังหวัดหนึ่ง?

Understand target users

การหาข้อมูลที่ง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้นการถามจากเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก หรือเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะคุณก่อน เมื่อขยับมาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณ สารภาพมาเถอะว่าคุณเองก็ไม่ได้คิดถึงเว็บไซต์ราชการที่เปิดมาแล้วให้คุณเลือกว่าจะถวายพระพรก่อนเข้าสู่เว็บไซต์หรือไม่ แต่คงเลือกที่จะเปิดแอป Social Media บนมือถือตัวเองและโพสต์ลงเฟสบุคของคุณว่า “ไปเชียงใหม่ 3 วัน รบกวนแม่ ๆ แนะนำหน่อยจ้า ควรไปตำที่ไหนบ้าง” (ในกรณีที่คุณเป็นคนวัย 30+ หากอายุน้อยลงมา คงเข้า Social Media บน Platform อื่น แต่รูปแบบคำถามก็ไม่น่าจะหนีจากกันมาก)

พอมีเวลาระหว่างวันคุณก็จะเริ่มหาข้อมูลจากกระทู้ เพจ หรือเว็บ Content แนว ๆ “ไปภูเก็ต 3 วันด้วยงบ x,xxx บาท แต่เก็บครบ!” “ชี้เป้า 15 คาเฟ่เปิดใหม่ถ่ายรูปสุดปังของขอนแก่น 2023” … และบางครั้งมันก็จบแค่นั้นเลย

แล้วเว็บไซต์ท่องเที่ยวของเมืองจะถูกเปิดตอนไหน ในเมื่อคนส่วนใหญ่ก็จบด้วยการหาข้อมูลจาก Social Media แอปพลิเคชั่นหรือเว็บ content ที่ขยันมัดรวม 10-20 พิกัดที่เที่ยว ที่กิน หรือที่อะไรก็ตามที่ Content Creator จะขยันหาทำเท่านั้น?

เอาล่ะ ทีนี้ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะออกไปเที่ยวไกลกว่าระดับจังหวัด ไปไกลข้ามประเทศล่ะ? Social Media อย่างเดียวสามารถตอบทุกข้อมูลที่เราอยากรู้ได้หรือเปล่า หากปลายทางของคุณเป็นประเทศที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่ปลายทางยอดนิยมของชาวไทย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่นั่นจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้หรือไม่ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่คุณกำลังจะเดินทางอีก? พอจะจินตนาการออกแล้วหรือยังว่าเหตุการณ์ไหนที่ทำให้คุณต้องพยายามอีกนิดในการหาข้อมูลจนไปเจอกับเว็บไซต์ท่องเที่ยวเมือง ๆ นึงหรือประเทศ ๆ นึงผ่าน Search Engine

เมื่อมองกลับมาที่ผู้ใช้งาน (User หรือ Audience) ตัวจริง จากการค้นคว้าและสังเกตุ เราคาดเดาว่าผู้ใช้งานที่สนใจค้นหาและใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนใหญ่น่าจะเป็นชาวต่างชาติ ไม่คุ้นเคยกับภาษาไทยและอาจเป็นครั้งแรกที่มาท่องเที่ยวที่กรุงเทพมหานคร

คุณเคยเข้าไปดูเว็บท่องเที่ยวจังหวัดของตัวเองหรือประเทศตัวเองครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?

Current situation

ขณะที่ทีมดีไซน์ของเราพยายามหาข้อมูลของเว็บท่องเที่ยวจังหวัดที่จัดทำโดยหน่วยราชการส่วนจังหวัดนั้น ๆ ก็พบว่ามันไม่มีเว็บท่องเที่ยวโดยเฉพาะ แต่ในเว็บไซต์เทศบาลนครของจังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ ๆ หรือจังหวัดที่มีเขตการปกครองพิเศษจะมีการใส่ข้อมูลท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในเว็บไซต์อยู่บ้างเช่น เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต เป็นต้น

ข้อมูลท่องเที่ยวที่เว็บไซต์เทศบาลนครของแต่ละจังหวัดมักจะมีร่วมกันคือการแบ่งข้อมูลสถานที่เป็น 3 หมวดคือ สถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน และที่พัก โดยบางเว็บอาจมีข้อมูลอื่น ๆ เช่น ของฝาก รายชื่อตลาด ปฏิทินกิจกรรม หรือข้อมูลความปลอดภัย และเนื่องจากเป็นเว็บไซต์ของเทศบาล ภาษาหลักของเว็บไซต์จึงเป็นภาษาไทย โดยที่มีตัวเลือกภาษาอื่นอีกเพียงตัวเลือกเดียวคือภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าคนที่เข้าเว็บเทศบาลแต่ละจังหวัดส่วนมากคือชาวไทยที่อาศัยอยู่จังหวัดนั้น หรือไม่ก็เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐในสังกัดเทศบาลนั้น และข้อมูลการท่องเที่ยวไม่ใช่ข้อมูลที่ user สนใจเป็นลำดับต้น ๆ ในการเข้าชมเว็บ เห็นได้จากการที่หลายจังหวัดไม่ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดอยู่เลย

ดูเหมือนจะมีแค่กรุงเทพมหานครที่เดียว ที่แยกเว็บไซต์ท่องเที่ยวจังหวัดออกจากเว็บไซต์ของหน่วยการปกครองมาในชื่อ Bangkoktourist ซึ่งภาษา default คือภาษาไทย (มีตัวเลือกอื่นคือภาษาอังกฤษ จีน (ตัวย่อ) และญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งน่าสนใจว่าทางกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวชาติใดบ้างจากการมีตัวเลือกภาษาเหล่านี้) แต่หมวดข้อมูลสถานที่แบ่งเหมือนกับจังหวัดอื่นคือ สถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน และที่พัก ตามด้วยปฏิทินกิจกรรม ข่าวสารองค์กร และแบนเนอร์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

Existing problem

เมื่อนั่งย้อนไทม์แมชชีนกลับไปดูเวอร์ชั่นเก่า ๆ ของตัวเว็บก็จะเห็นได้ว่ามีวิวัฒนาการของโลโก้ แท็กไลน์ ดังนี้

2004 - 2008 : ใช้โลโก้ชื่อว่า City of Bangkok (Bangkok Tourism Division) ไม่มีแท็กไลน์ แต่มีการระบุว่าผู้ว่าฯ ในสมัยนั้นคือใคร ใช้ภาษาหลักของเว็บเป็นภาษาอังกฤษ มี flash game ให้เล่นและมีกระทู้ถามตอบบนเว็บ
2009 : เปลี่ยนไปใช้โลโก้ชื่อ Bangkok Smiles (และใช้ยาวมาจนถึง 2023) โดยใช้แท็กไลน์ว่า Explore the charm of Bangkok
2012 : เปลี่ยนแท็กไลน์ เป็น "Bangkok; Cultural phenomenon, shopping heaven and tourist treasure. one of the most cosmopolitan, contrasting and, above all, compelling of Asian cities." โดยใช้ภาษา default เป็นภาษาอังกฤษ มีการนำกระทู้ถามตอบกลับมาอีกครั้ง และมีตัวเลือกภาษาอื่นเป็น จีน (ตัวย่อ) ญี่ปุ่น ไทย ตามลำดับ
2014 : ใช้แท็กไลน์บนแบนเนอร์หลักว่า “The World Best City” โดยมีใจความหลักว่ากทม. ได้รับรางวัลจาก Travel Leisure World’s Best Awards ติดกันมาตั้งแต่ปี 2010 - 2013 ในเวอร์ชั่นนี้ยังคงใช้ภาษาหลักของเว็บเป็นอังกฤษ แต่มีการจัดลำดับตัวเลือกภาษาอื่นคือ ไทย จีน(ตัวย่อ) และญี่ปุ่น

กลับกัน เมื่อลองไปดูเว็บท่องเที่ยวเมืองอย่างเป็นทางการของประเทศอื่น หากลองสำรวจชื่อเว็บของ 20 เมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยี่ยมเยือนมากที่สุดในโลกปี 2023 (ที่มีเว็บไซต์ท่องเที่ยวเมืองของตัวเอง) จะเจอการแบ่งการตั้งชื่อหลัก ๆ คือ

ใช้คำกริยาที่มี hint ถึงการท่องเที่ยว : Go Tokyo, Visit Seoul, Visit London, Discover Hong Kong, Visit Singapore, NYC Tourism, iSTANBUL (Go Turkiye), Discover Makkha - Visit Saudi ใช้ภาษาถิ่นร่วมกับชื่อเมือง : Bonjour Paris

ใช้คำที่ hint ถึงการแนะนำหรือการให้ข้อมูล : Osaka Info, Introducing Milan , spain.info

ใช้ชื่อเมืองเดี่ยว ๆ : Bali.com

ข้อสังเกตอีกอย่างที่พบคือหากเมืองที่มีทีมฟุตบอลดัง ๆ อย่าง Milan และ Barcelona เมื่อพิมพ์ชื่อเมืองแล้วจะมีแต่เว็บฟุตบอลขึ้นมาก่อนจะเจอเว็บท่องเที่ยวเมือง

Visit Bangkok

จากการดูตัวอย่างของเว็บไซต์ท่องเที่ยวเมืองอื่น ๆ จะพบว่าคำที่พบเห็นบ่อยได้แก่ Visit, Discover, Explore, Go จากคำเหล่านี้มีเพียงคำว่า Visit ที่ออกเสียงพ้องกับคำไทยที่มีความหมาย (‘วิศิษฏ์’ หรือ ‘วิศิษฐ’ แปลว่า ดีเลิศ หรือ ยอดเยี่ยม) ซึ่งหากในอนาคตอยากทำ Branding ภาษาไทยและอังกฤษแยกกันเช่น VisitBangkok เป็น วิศิษฐ์กรุงเทพฯ ก็น่าจะช่วยเพิ่มลูกเล่นที่อาจปรับใช้กับจังหวัดอื่น ๆ ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ จากข้อสังเกตที่ว่าเว็บท่องเที่ยวของประเทศอื่น ๆ นำภาษาอังกฤษขึ้นเป็นภาษา default แปลว่ามีการเล็งเห็นว่า user ที่จะเข้ามาใช้งานหาข้อมูลนั้นไม่ใช่คนในประเทศ ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ในครั้งนี้ทางทีมจึงพยายามคำนึงถึงชาวต่างชาติ และพยายามปรับหน้าตา User Experience (UX) และ User Interface (UI) ของเว็บไซต์ให้มีความเรียบง่าย เป็นสากลมากขึ้น

ต่อมาคำถามที่ควรเริ่มก่อนออกแบบ UI คือ “เว็บท่องเที่ยวเหล่านี้มีการจัดเรียงข้อมูลอย่างไร”

การท่องเที่ยวใด ๆ ก็ตาม ทุกอย่างนั้นอิงอยู่กับ สถานที่

แน่นอนว่าข้อมูลหน่วยย่อยที่สุดบนเว็บไซต์ก็คือ ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่ใดที่หนึ่ง

ทุกเว็บไซต์ท่องเที่ยวมักให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในรูปแบบ blog ที่สามารถเพิ่มข้อมูลได้เรื่อย ๆ แต่จะมีวิธีการคิดในการออกแบบการจัดเรียงข้อมูลและมีวิธีที่จะพาเราไปเจอข้อมูลนั้นต่างกัน

ในเว็บท่องเที่ยวของประเทศไทย ใช้ ประเภทสถานที่ เป็นแกนหลักของการหาข้อมูล โดยแบ่งหมวดข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเป็น 3 หมวดคือ สถานที่ท่องเที่ยว ที่กิน และที่พัก และใช้แบบแผนนี้เหมือน ๆ กันในหลายจังหวัด

From information to design

เว็บท่องเที่ยวเมืองของประเทศอื่นจะเห็นแกนหลักการหาข้อมูลอยู่สองแบบ

ใช้พื้นที่เป็นแกนหลักของการหาข้อมูล คือตั้งต้นด้วยเขตหรือย่าน แล้วเจาะว่าในพื้นที่นี้มีอะไรน่าสนใจ ในการแบ่งข้อมูลประเภทนี้จะไม่ได้เน้น function การใช้งานหรือการค้นหาที่ซับซ้อน แต่จะเน้นไปที่ visual ที่ดึงดูดเป็นหลัก
แบ่งแกนข้อมูลออกเป็นสองเรื่องคือ ‘Where to go’ และ ‘Things to do’ คือ สถานที่ และ กิจกรรม ซึ่งเลือกเอาว่า อยากไปที่แบบไหน และ อยากไปทำอะไร ในการแบ่งข้อมูลประเภทนี้ มักจะมี filter เสริมเพื่อให้การค้นหาสถานที่ตรงตามความต้องการของ user มากขึ้น

ในการออกแบบครั้งนี้ทางทีมเลือกการจัดการข้อมูลแบบแบ่งแกนการหาข้อมูลเป็นสองเรื่องหลักคือ สถานที่ และ กิจกรรม เป็นหลัก แต่แสดงผลการค้นหาในทั้งแบบ list และบนแผนที่เพื่อให้มองเห็นที่ตั้งจริง

นอกจากจะพิมพ์หาชื่อสถานที่ตรง ๆ แล้ว ตรง local navigation ยังมีลิสต์ของ ประเภทสถานที่ และ ประเภทกิจกรรม ให้ user เลือกกรองดูสถานที่ท่องเที่ยวในแบบที่ตัวเองสนใจ

หน้าตา icon ของ pin สถานที่จะเปลี่ยนไปตาม ประเภทสถานที่ หรือ กิจกรรม ที่เลือกอยู่ ซึ่งจะมี label ตัวเลขคะแนนรีวิวจาก Google รวมถึงการติด badge บนสถานที่ ๆ เคยได้รับรางวัลจาก Tripadvisor เป็นอีกหนึ่ง UI ที่ช่วยให้ user ที่กวาดตามองไว ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าอะไรน่าสนใจในสถานที่หมวดเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมี filter เสริมเพื่อกรองผลการค้นหาข้อมูลสถานที่ให้ตรงตามความต้องการในหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้แก่

ย่าน: เรามักจะคุ้นเคยกับชื่อ ย่าน มากกว่า เขต หากพูดถึงเยาวราช อารีย์ หรือตลาดน้อย เชื่อว่าหลายคนคงพอนึกภาพออกว่าอยู่แถวไหนมีสถานที่ประมาณไหน แต่กลับกันถ้าถามว่า เขตสัมพันธวงศ์ มีอะไรบ้าง หลายคนอาจนึกไม่ออกว่าอยู่แถวไหนเลยด้วยซ้ำ จึงเป็นเหตุให้ทีมดีไซน์ตัดสินใจเลือกย่านแทนที่จะเป็นเขตสำหรับตัวกรอง

เหมาะกับ: การท่องเที่ยวแบบกลุ่มเพื่อน หรือการเที่ยวเป็นครอบครัวใหญ่ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูปแบบสถานที่ ๆ สามารถไปได้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ข้อมูลว่าสถานที่ดังกล่าวเหมาะกับกลุ่มคนใดบ้างจึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเวลาแอดมินเพิ่มข้อมูลสถานที่ลงไปต้องเช็คข้อมูลและระบุลงว่าสถานที่นี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือเที่ยวเป็นครอบครัว

การเดินทาง: เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราพิจารณาให้อยู่ในตัวกรองและส่วนของข้อมูลสถานที่ เนื่องจากคนที่มาหาข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยวโดยตรงแบบนี้น่าจะเป็นผู้ที่เดินทางเองโดยไม่ได้มากับทัวร์ และอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเดินทาง การให้ข้อมูลการเดินทางของสถานที่นั้นจึงเป็นประโยชน์กับ user ประเภทนี้

วัน/เวลาเปิดทำการ: เวลาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักของการเดินทางท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่มาระยะสั้นมาก หรือมาแค่แวะเพื่อรอต่อเครื่องไปประเทศปลายทาง สามารถอยู่ในไทยเพียงวันเดียวหรือเพียงไม่กี่คืน การค้นหาสถานที่ โดยอิงจากช่วงเวลาและวันที่เปิดบริการจึงเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

สิ่งอำนวยความสะดวก: ผู้ที่มีความจำกัดทางร่างกายอาจอยากทราบว่าสถานที่นั้นมีที่จอดรถหรือ ทางลาดไหม รวมทั้งข้อมูลว่าสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีไกด์หรือเครื่องแปลภาษารองรับหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับ user เช่นกัน

เนื่องจากข้อมูลหน่วยย่อยที่สุดคือข้อมูลสถานที่ที่กระจัดกระจายกันอยู่ ทีมดีไซน์จึงออกแบบหน้าตาข้อมูลอีกประเภทหนึ่ง คือ เส้นทาง ซึ่งเป็น blog ที่เอา สถานที่ มาผูกรวมกัน ซึ่งขณะนี้บนเว็บอาจยังมีแค่เส้นทางแนะนำตามย่าน ทีม content อาจลองตั้งโจทย์ใหม่เป็นการสร้าง ‘เส้นทางแนะนำตามกลุ่มลักษณะนักท่องเที่ยว’ ‘เส้นทางตามรอยหนัง’ หรือแม้แต่ ‘เส้นทางแนะนำโดยบุคคลดัง’ ในอนาคตได้

เหนือกว่าหน้าตาเว็บแล้ว “ภาษา” เองก็เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลกับการใช้งาน

Copywriting is important

นอกเหนือไปจาก function การใช้งานและหน้าตา visual ของเว็บไซต์แล้ว การใช้คำและภาษาบนเว็บไซต์ก็เป็นอีกเรื่องที่คนออกแบบเว็บไม่ค่อยคำนึงถึงแต่เป็นสิ่งสำคัญและส่งผลกับประสบการณ์ของ user เป็นอย่างมาก ลองนึกง่าย ๆ ว่าคุณเจอสินค้าที่รูปลักษณ์ตรงจริตคุณอย่างที่สุด เว็บไซต์ social media ทุกอย่างสวยแบบตะโกน แต่พอทักแช็ตสั่งซื้อของแล้วแม่ค้าตอบว่า “สวัสดีนะค่ะ” หลายคนอาจจะกำหมัดหรือรู้สึกว่าแบรนด์หมดความน่าเชื่อถือ

ระหว่างที่สำรวจตัวอย่างเว็บท่องเที่ยวเมืองของประเทศอื่น ๆ เป็นภาษาอังกฤษจะพบว่ามีแท็กไลน์ที่ดูเข้าถึงง่าย ไม่ได้ใช้คำศัพท์ที่สวยเกินหรือยากเกิน และมีความ casual หากเป็นบทความที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะมีโทนการใช้คำที่เป็นทางการในหน้าที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวเมือง หรือหน่วยงาน

จากการดูเว็บท่องเที่ยวเมืองหรือประเทศอื่น ๆ หนึ่งในเว็บที่ทีมดีไซน์รู้สึกชอบที่สุดกลับเป็นของประเทศ Lithunia ซึ่งถ้าพูดถึงความสวยงามของ UI จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้สวยที่สุด แต่เป็นเว็บเดียวที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมีคนมาเล่าเรื่องให้ฟัง ในขณะที่เว็บอื่น ๆ รู้สึกเหมือนนั่งอ่านข้อมูลจากแผ่นพับที่ได้จาก tourist information center (อาจเป็นเรื่องของจริตความชอบส่วนตัว แต่ถ้าสนใจลองอ่านตัวอย่างการเขียนของเว็บได้ที่หน้า What is Lithuania?)

แน่นอนว่าภาษาบนเว็บไซต์ยังไงก็ต้องมีความทางการที่ไม่ติดเล่นเกินไป ในหน้าทั่วไปเราจึงพยายามใช้ภาษาที่ค่อนข้างกลาง ๆ

สำหรับแท็กไลน์หลัก เราพยายามหาจุดขายของเมืองซึ่งเคยติดโผอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเยอะที่สุดของหลายสำนัก จึงเอาคำว่า Most Visited City มายืนพื้นก่อน โดยอ้างอิงจากการจัดอันดับจากสำนักที่ชื่อคุ้นหูทุกคนอย่าง Mastercard

หน้าที่เล่นได้ก็หยิบเอาประสบการณ์บางอย่างที่หาได้ที่เมืองนี้เท่านั้นมาประกอบใน copy-writing เพื่อให้รู้สึกว่าเว็บนี้มีความ human-touch อยู่บ้าง

อนาคตของ “เว็บไซต์ท่องเที่ยวเมือง” ของไทย

แน่นอนว่าการ Renewal เว็บครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าทีมของเราทำมันออกมาได้เลิศเลอที่สุด แต่ทุกการตัดสินใจในการออกแบบการจัดเรียงข้อมูล หน้าตา UI ไปจนถึงคำที่ใช้บนเว็บมีที่มาที่ไปจากการวิเคราะห์ภาพรวมของเว็บการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเว็บท่องเที่ยวเมืองในไทยที่นำแผนที่มาร่วมใช้เป็น Function การค้นหาพร้อมระบบการค้นหาที่ซับซ้อน สามารถกรองความต้องการที่หลากหลาย และยกระดับหน้าตา UI ให้มีความเป็นสากลขึ้น ซึ่งก็เป็นการเซ็ตมาตรฐานใหม่ในการทำ Renewal ครั้งต่อ ๆ ไปหลังจากนี้

ทางทีมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำเว็บ VisitBangkok ครั้งนี้จะจุดประกายหรือเป็นไอเดียให้เกิดเว็บ Visit ของเมืองท่องเที่ยวอื่น หรือแม้แต่เมืองรองอื่น ๆ เช่น VisitNan VisitBuriram VisitTrang VisitLopburi ฯลฯ ขึ้นมาในอนาคต

การออกแบบเว็บท่องเที่ยวเมืองหรือประเทศ Website design and Development for City Tourism Website