เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปแสดงงานชิ้นใหม่ของ Boonmee Lab ที่ทำร่วมกันกับ DTAC และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้กับกลุ่มนักข่าวและเพจต่าง ๆ ดูว่าโครงการ Mobility Data นี้เปิดเผยข้อมูลออกมาเป็น dashboard อย่างไรบ้างครับ

ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่าโครงการนี้รวบรวมข้อมูลการเดินทางในลักษณะที่ระบุตัวตนไม่ได้เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาการท่องเที่ยวในประเทศไทยครับ จากที่มีงานเปิดตัว เพื่อแสดงผล การวิเคราะห์ ซึ่งอธิบายผลลัพธ์ที่น่าสนใจหลายอย่าง พร้อมทั้งแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวต่อไป แต่เวลาในการนำเสนอก็จำกัดและเราคงไม่สามารถแสดง insight ของทุกจังหวัดและพื้นที่ได้ แผนงานส่วนหนึ่งที่ Boonmee Lab เข้าไปช่วยนอกจากการจัดเตรียมและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นต้นคือการนำผลการวิเคราะห์ต่าง ๆ มาแสดงเป็น dashboard เพื่อให้เข้าถึงกันได้ง่ายด้วย

ในช่วงต้นของงานเปิดตัว dashboard นี้ ต่อจาก ผศ.ดร. ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อธิบายถึงผลการวิเคราะห์เพิ่มเติมแล้ว ผมก็ได้แสดงความสามารถบางส่วนของ dashboard นี้โดยยกตัวอย่างภาพรวมทั้งประเทศตามรูปด้านล่างครับ

ต่อจากนั้นก็ลองชวนไปดูจังหวัดใหญ่อย่างเชียงใหม่ โดยสามารถดูข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวเข้าออกจังหวัดได้ ดูการกระจุกตัวนักท่องเที่ยวระดับอำเภอได้ จะเห็นได้ว่าโดยทั่วไป อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม และอำเภอสารภีเป็นอำเภอที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด แต่ในวันหยุดยาว อำเภอสันทรายกลายเป็นอำเภอที่มีนักท่องเที่ยวเป็นอันดับสองครับ

ในกรณีที่เป็นเมืองรอง ก็จะมีดัชนีชี้วัดศักยภาพและข้อแนะนำเชิงนโยบายการท่องเที่ยวด้วย อย่างศรีสะเกษมีศักยภาพสูงในการพัฒนาการพักค้างแบบใหม่แต่ไม่ได้มีศักยภาพในการท่องเที่ยวแบบคลัสเตอร์มากนัก ในทางกลับกัน การท่องเที่ยวแบบคลัสเตอร์ในชัยนาทมีศักยภาพสูง ซึ่งก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ด้วยว่านักท่องเที่ยวมักเดินทางไปชัยนาทควบคู่กับจังหวัดอะไร และควรวางแผนนโยบายการท่องเที่ยวร่วมกับจังหวัดใด

ผมหวังว่า dashboard ในลักษณะนี้จะช่วยทำให้ผลการวิเคราะห์การท่องเที่ยวไปได้ไกลกว่าผลสรุปที่วิเคราะห์มาแล้ว คนในพื้นที่สามารถดูข้อมูลพื้นที่ของตนเองได้โดยละเอียด ประกอบกับความชำนาญด้านพื้นที่หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่มีอยู่อาจทำให้วิเคราะห์ข้อมูลได้ในแง่มุมที่แตกต่างออกไป เกิดเป็นนโยบายการท่องเที่ยวที่ bottom-up มากขึ้นครับ

Mobility Data Dashboard